วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

ทองเนื้อเก้าคืออะไร ใช่ทองคำแท้ไหม และหาได้จากที่ไหน

 กระแส "ละครทองเนื้อเก้า" กำลังฮิต ผมก็แปลกใจว่า "ทองเนื้อเก้า" มันคืออะไร จริงๆแล้วคำถามนี้มันก็เป็นสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะรู้ไปเพื่ออออ....อะไรเหมือนกันนะ....พับผ่าสิ!! แต่เอาเหอะ....ในเมื่อคุณหลงเข้ามาอ่านแล้ว ผมจะทำให้การเสียเวลาในชีวิตครั้งนี้ของคุณคุ้มค่าที่สุด


 คำถามแรกคือ "ทองเนื้อเก้า" มันคืออะไร?
- คำถามนี้จะให้รู้ลึก รู้จริงมันคงยาก บอกตามตรงเกิดไม่ทัน คำนี้ถูกใช้เพื่อกำหนดคุณภาพของทองคำในอดีต ซึ่งข้อมูลรายละเอียดก็ว่ากันไปตาม พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งเขียนไว้ว่า
ทองเนื้อเก้าน. ทองคำบริสุทธิ์ โบราณกำหนดคุณภาพของเนื้อ ตั้งแต่เนื้อสี่ถึงเนื้อเก้า โดยตั้งพิกัดราคาตามเนื้อทอง คือ ทองหนัก ๑ บาท ราคา ๙ บาท,
ที่มาและลิงค์อ่านเพิ่มเติม : http://dict.longdo.com/index.php?lang=en&search=ทองเนื้อเก้า
 อธิบายข้อมูลให้ฟังง่ายๆ ตามที่ผมเข้าใจดังนี้ ในอดีตคำว่า "ทองเนื้อเก้า" ถูกใช้เรียกทองคำบริสุทธิ์ที่ปราศจากธาตุอื่นเจือปน หรือถ้าเทียบให้เข้าใจง่ายๆก็คงเหมือนกับทองคำ 99.99% ซึ่งในอดีตจะมีคำเรียกตั้งแต่ ทองเนื้อสี่,ทองเนื้อห้า ไปจนถึง ทองเนื้อเก้า เพื่อแยกแยะคุณภาพของทอง
ที่มาและลิงค์อ่านเพิ่มเติม : http://www.ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/161/54/1/2/


 ซึ่งในปัจจุบันจะแบ่งคุณภาพของเนื้อทองคำด้วยคำว่า “กะรัต” หรืออักษรย่อตัว "K" ดังนั้นถ้าอิงจากหลักสากลแล้ว ทองคำ 99.99% หรือ "ทองเนื้อเก้า" ในอดีต ก็จะเทียบเท่ากับ ทอง 24 กะรัต(หรือ 24K) ในปัจจุบัน

ลองมาดูภาพเปรียบเทียบการแบ่งคุณภาพของเนื้อทองคำในอดีต และปัจจุบันว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

 แต่สำหรับประเทศไทยแลนด์ ดินแดนOnly อย่างเราแล้ว หึหึ..บอกเลยนะ จะให้ไปใช้คุณภาพทองตามที่สากลเขาทำกันมันยาก เพราะถ้าจะใช้ทอง 24k ความแข็งแรงมันก็จะอ่อนไป ยากต่อการทำและใช้งาน (เพราะทองเปอร์เซนต์สูงจะนิ่ม บุบง่าย) หรือถ้าจะใช้ทอง 22k สีเหลืองทองมันก็ยังไม่สวยโดนใจ
 ประเทศไทยเราก็เลยกำหนดมาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำอยู่ที่ 96.5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเทียบเป็นกะรัตก็จะอยู่ที่ประมาณ 23K ซึ่งก็จะได้สีที่เหลืองทองสวยสมใจ และแข็งแรงเหมาะที่จะนำไปทำเครื่องประดับ แต่ถ้าเคยสังเกตุจะไม่ค่อยเห็นชาวต่างชาติใส่ทอง 96.5% ของบ้านเรานะ ผมเคยถามเขาอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่ใส่ ได้คำตอบมาว่าสีมันไม่สวยโดนใจบ้าง เหลืองเกินไปบ้าง ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติจะชอบใส่แต่ทอง 9k-18k

คำถามต่อมาคือ "ทองเนื้อเก้า" หาได้จากไหนบ้าง?

1."ทองเนื้อเก้า" ในรูปแบบเครื่องประดับ
 ที่รู้จักกันมากๆเลยก็ PRIMA GOLD 24K วิธีสังเกตุเครื่องประดับทองเนื้อเก้าจำพวกนี้ ให้ลองมองหาตราสแตมป์บนตัวเรือน จะมีตราประทับอยู่ เช่น PRIMA GOLD,24k,999 และสีของทองเนื้อเก้าจะเหลืองสุก มากกว่าทอง96.5อย่างเห็นได้ชัด

 2. "ทองเนื้อเก้า" ในรูปแบบทองคำแท่ง เหรียญกษาปณ์ สแตมป์ และธนบัตร ทองคำถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเกร็งกำไรของตลาด และเป็นโลหะที่ถูกใช้สำรองเป็นเงินทุนระหว่างประเทศ เพราะทองคำมีมูลค่าในตัวมันเอง ลองคิดตามดูก็ได้ว่าถ้าเกิดสงครามขึ้นทั่วโลก เงินกระดาษที่คุณถืออยู่จะกลายเป็นขยะไปในทันที แร่ทองคำจะถูกใช้แทนในการซื้อขาย-แลกเปลี่ยนอาหาร น้ำ ยา และอาวุธทั่วโลก

 3. "ทองเนื้อเก้า" ในรูปแบบขยะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทองคำถูกใช้ไปในวงการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพราะช่วยในการนำกระแสไฟฟ้า สังเกตุตามพวกแผงวงจรอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือพวกอุปกรณ์สื่อสารมือถือรุ่นเก่าๆ จะใช้ทองคำเคลือบบนอุปกรณ์ หรือใช้เป็นชิ้นส่วนหนึ่งบนแผงวงจรเลยก็มี แต่เราๆท่านๆใครจะรู้ว่ามีทองคำในนั้น ก็ทิ้งลงถังขยะกันแบบไร้ค่า ขยะพวกนี้ก็จะถูกเก็บรวบรวมให้เยอะๆ แล้วนำไปสกัด Re-fine เอาแต่ "ทองเนื้อเก้า 99.9%" ออกมาเพื่อเข้าสู่วงจรซื้อขายอีกครั้ง ดังเช่นในภาพ

 สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เข้มยินดีให้บริการตรวจเช็ค รับซื้อทอง ทองเก่า เงิน นาค เข็มขัดเงิน เข็มขัดเงิน และโลหะมีค่าอื่นๆทุกชนิดเลยนะครับ โทรมาสอบถามราคา หรือขอคำปรึกษาสอบถามก็ได้ครับ ผมคุยเก่ง คุยง่าย ไม่ต้องกลัวที่จะโทรมานะครับ ไม่ได้ซื้อ-ขายกันไม่ว่า โทรมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันก็ยังดีครับ  เบอร์ 081-408-8263 (เข้ม)

บทความโดย เข้ม

เทคนิควิธีขายทองให้ได้ราคา ไม่อยากเป็น “หมู” ต้องอ่านเท่านั้น


สมมุติว่าคุณมีทองที่ต้องการจะขาย จะเป็นสร้อยคอทอง แหวนทอง อะไรก็ว่าไป อยากจะขายให้ได้ราคา ไม่ถูกหลอกทำยังไงตามมาดู
1. สิ่งแรกที่คุณต้องรู้ให้ได้ก็คือ ทองที่ถืออยู่ในมือคุณ มันเป็นทองอะไร? เปอร์เซนต์อะไร? สำคัญเลยนะจุดนี้ บางคนนำทองมาขาย ยังไม่รู้เลยว่าเป็นทองอะไร ถ้าเกิดเจอผู้ซื้อที่มองอาการเราออก แล้วเขาตั้งใจจะเชือดนิ่มเรานี่แย่เลยนะครับ ลองคิดดูอาจจะถึงขนาดชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ บอกดี ไม่ดี ได้ราคาเท่านี้ เราก็ได้แต่ยืนพยักหน้าอย่างเดียว ผมพูดถูกไหม?
2. คำถามต่อมา แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าทองของเราเป็นทองอะไร ขั้นแรกให้ลองมาหาโค๊ด หรือตราแสตมป์บนตัวเรือนก่อน ถ้าเป็นทองส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีตราแสตมป์ยกตัวอย่าง 24k, 22k, 18k, 14k, 10k หรือตัวเลข 999, 965, 916, 90%, 750, 585, 417, 333 มีอีกเยอะลองอ่านบทความเก่าๆผมดู คลิ๊ก พอรู้ตัวเลขแล้วก็ต้องหาความหมายของมัน จะบอกให้รู้ไว้เลยนะครับ จะซื้อจะขายอะไรควรที่จะหาความรู้ประดับไว้ มีแต่ได้กับได้ ฟันธง!
3. เอาตราแสตมป์มาเทียบได้เลย จะได้รู้ว่าทองของเราคือทองอะไร เปอร์เซนต์ทองอะไร
8K, 8ct หรือ 333 จะมีทองอยู่ 33.3%
9K, 9ct หรือ 375 จะมีทองอยู่ 37.5%
10K, 10ct or 416 จะมีทองอยู่ 41.6%
12K, 12ct or 500 จะมีทองอยู่ 50%
14K, 14ct or 585 จะมีทองอยู่ 58.5%
15K, 15ct or 625 จะมีทองอยู่ 62.5 %
18K, 18ct or 750 จะมีทองอยู่ 75%
22K, 22ct or 916 จะมีทองอยู่ 91.6%
24K, 24ct or 1000 จะมีทองอยู่ 99.9% หรือ ทองคำบริสุทธิ์
***ในไทยจะมีตัวเลข 96.5%  และ 90% ***
4. ตอนนี้คุณจะพอรู้ข้อมูลทองของคุณบ้างแล้ว แต่จะเป็นของจริงหรือปลอมนั้นอีกเรื่องนึง ซึ่งคุณไม่สามารถดูว่าเป็นทองจริงหรือทองปลอมได้เองด้วยตาเปล่าแน่ๆ ขั้นตอนต่อไปก็คือต้องหาคนที่จะมาดูทองให้ และรับซื้อทองของคุณ สิ่งที่คุณสนใจที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ราคารับซื้อที่สูงที่สุด” ผมพูดถูกไหม?
5. แหล่งการสอบถามราคา และหาผู้เชี่ยวชาญดูให้แบบง่ายๆมีดังนี้
- ร้านทองใก้ลบ้าน ให้เขาดูให้ และถามราคามาเพื่อเปรียบเทียบ  ***มีบางคนกลัวไม่กล้าเข้า เพราะไม่รู้ว่าจะเป็นทองจริงหรือทองปลอม***
- เคยคุยกับลูกค้าคนนึง เขาบอกเอาไปให้ร้านทองในห้างดูให้ แล้วก็สอบถามราคามาเลย มีเสียค่าบริการนิดหน่อย
- โรงจำนำ ยื่นทองให้หลงจู้ดูเลยครับ ทองจริงหรือทองปลอมเดี๋ยวก็รู้
- โทรสอบถามราคาจากร้านรับซื้อต่างๆ ใน internet ต่างๆ เรามีข้อมูลแล้วว่าทองของเราคืออะไร ก็บอกเขาไปเพื่อขอราคา
*** สิ่งที่รู้สึกแย่สำหรับผู้ขายที่สุดคือ การเปิดราคารับซื้อที่สูงเวลาโทรไปถามราคา แต่พอเดินทางไปขายให้จริงๆ ตินู้น ตินี้ หักนู้น หักนี้ จะขายหรือไม่ขาย บางคนก็ต้องขายไป ก็เดินทางมาแล้วนี่ โบราณเขาว่าผีถึงป่าช้า ดังนั้นการให้ราคาสูงอย่างเดียวคงไม่พอ ผู้ขายควรดูหลายๆอย่างประกอบไปด้วยครับ***
6. ตอนไปขายก็บอกเขาไปว่าเป็นทองอะไร ตามที่เราหาข้อมูลมา เพื่อแสดงออกว่าเรามีความรู้นะ ไม่ได้เป็นหมูนะเฟ้ย ถ้าคิดจะหลอกบอกเลยไม่ง่าย
7. เราไม่รู้หลอกครับว่าใครจะจริงใจกับเราบ้าง ไม่โกงหรือหลอกเรา ดังนั้นเรื่องน้ำหนักทองที่นำไปขายสำคัญมากๆ ควรจะพอรู้น้ำหนักทองไปคร่าวๆ หรือถ้าไมรู้เลย ให้หาตราชั่งดิจิตอลชั่งน้ำหนักก่อนไปขาย ถ้าโดนโกงน้ำหนักไปซัก 2-3กรัมก็เสียหายเป็น 1,000บาทแล้วครับ
วิธีที่ผมกล่าวมาทั้งหมดข้างต้น เสมือนเป็นการบอกให้คุณหาความรู้ สอบถามราคา และหาผู้ซื้อที่เชื่อถือได้ก่อนที่จะนำทองไปขาย เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะบางคนขายไปโดยไม่รู้ พอกลับมานั่งคิดดีๆ เอ๊ะ..นี่เราโดนหลอกไปรึเปล่า…มันสายไปแล้วครับ และผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านบางคนมาเจอบทความนี้ช้าไป เพราะขายไปแล้วก็มี…เอิ๊กๆๆ
บทความโดย เข้ม
Siamgoldsilver.com